วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อเหตุจิต ๔

อภิธัมมัตถสังคหะ
อเหตุกจิต (๔)
          อุเปกฺขาสหคต   จกฺขุวิฃฺฃาณํ,  ตถา  โสตวิฺาณ   ฆานวิฺาณ  ชิวฺหาวิฺาณ  ทุกฺขสหคต  กายวิฺาณ  อุเปกฺขาสหคต สมฺปฏิจฺฉนฺน, ตถา   สนฺตีรณฺเจติ  อิมานิ  สตฺตปิ อกุสลวิปากจิตฺตานิ  นาม.
              อิมานิ จิตฺตานิ จิตเหล่านี้ สตฺตปิ แม้ ๗ ดวง อิติ คือ
      จกฺขุวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยจักขุปสาท อุเปกฺขาสหคตํ เกิดร่วมกับอุเบกขา-เวทนา [ ดวงหนึ่ง]โสตวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยโสตปสาท [ ดวงหนึ่ง]ฆานวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยฆานวิญญาณ [ ดวงหนึ่ง]ชิวฺหาวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยชิวหาปสาท [ ดวงหนึ่ง] ตถา [อุเปกฺขาสหคตํ เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา]เช่นเดียวกัน
**********

อภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา 
อเหตุกจิต (๔) อธิบายคำว่า จักขุวิญญาณ [จิตที่อาศัยจักขุปสาทเกิด] (ต่อ)

            ๗๘. นิรุฑฺโฒ หิ เอส จกฺขุสทฺโท ทฏฺุกามตานิทานกมฺมชภูตปฺปสาทลกฺขเณ[1] จกฺขุปฺปสาเทเยว มยุราทิสทฺทา วิย สกุณวิเสสาทีสุ. จกฺขุสหวุตฺติยา ปน  ภมุกฏฺฅิปริจฺฉินฺโน  มสปิณฺโฑปิ จกฺขุนฺติ วุจฺจติ.
          หิ ความจริง เอส [=เอโส] จกฺขุสทฺโท จักขุศัพท์ นี้ นิรุฑฺโฒ  เป็นศัพท์ที่มีใช้ จกฺขุปฺปสาเทเยว เฉพาะจักขุปสาทเท่านั้น ทฏฺฐุกามตานิทานกมฺมชภูตปฺปสาทลกฺขเณ[2] ที่มีความใสแห่งมหาภูตรูปอันเกิดจากกรรมซึ่งมีความประสงค์จะดูเป็นเหตุเป็นลักษณะ วิย เหมือนอย่างกับ มยุราทิสทฺทา ศัพท์ว่า มยุร เป็นต้น  นิรุฑฺฒา เป็นศัพท์มีใช้ สกุณวิเสสาทีสุ เฉพาะในนกชนิดหนึ่งเป็นต้น. [3]
          ปน อย่างไรก็ตาม มํสปิณฺโฑปิ แม้ก้อนเนื้อ[4] ภมุกฏฺฅิปริจฺฉินฺโน ซึ่งถูกกำหนดที่อยู่ด้วยกระดูกคิ้ว ปณฺฑิเตน อันบัณฑิต จกฺขุ อิติ วุจฺจติ เรียกว่า จักษุ จกฺขุสหวุตฺติยา เพราะมีความเป็นไปร่วมกับจักขุปสาท. [5]



[1] ความหมายคือ จักขุปสาทมีความใสของมหาภูตรูปที่เกิดจากกรรมที่มีรูปตัณหาเป็นเหตุเป็นลักษณะ
[2] คัมภีร์ปรมัตถทีปนีฏีกา (อภิธัมมัตถสังคหฎีกา) อธิบายสรุปว่า ได้แก่รูปเป็นที่ปรากฏแห่งนิมิตอารมณ์มีดวงจันทร์เป็นต้น โดยสภาพของตน เหมือนดังว่าฝังตัวอยู่ที่รูปนั้น เรียกว่า ปสาท. ได้แก่ ความใสที่เกิดจากกรรม ที่เหมือนกับความใสของกระจกที่สะอาด (ป + สท ปรากฏ + ณ ปัจจัย อธิกรณสาธนะ)
[3] นอกจากนี้ยังหมายถึง ศัพท์ว่า มหึส กระบือ, ปงฺกช ดอกบัว, วจฺฉ ลูกวัว เป็นต้นอีก ที่เป็นศัพท์ที่มีใช้เฉพาะในสัตว์ ๔ เท้าชนิดหนึ่งเป็นต้นเท่านั้น. กล่าวคือ มยูรา มีความหมายตามรูปศัพท์ว่า มหิยํ รวตีติ มยูโร สัตว์ที่ร้องบนแผ่นดิน ชื่อว่า มยูระ. แม้สัตว์เหล่าอื่นจะร้องบนแผ่นดินเหมือนกัน แต่ไม่ได้ชื่อว่า มยุร คงใช้เรียกเฉพาะนกยูงเท่านั้นว่า มยูระ. แม้ในศัพท์อื่นเช่น มหึสา เป็นต้นก็นัยนี้คือ มหยํ เสตีติ มหึโส สัตว์ที่นอนบนแผ่นดิน เรียกว่า มหึสะ กระบือ , วทตีติ วจฺโฉ สัตว์ที่ร้อง เรียกว่า วัจฉะ, ปงฺเก ชาตํ ปงฺกชํ พืชที่เกิดในโคลนตม เรียกว่า ปงฺกช. แม้สัตว์อื่นๆที่นอนบนแผ่นดิน, ที่ร้องได้, ที่เกิดในโคลนตมเหมือนกัน ก็ไม่เรียกว่า มหึส, วจฺฉ หรือ ปงฺกช แต่อย่างใด คำว่า มหึส เป็นต้น เป็นศัพท์มีใช้เฉพาะกระบือเป็นต้นเท่านั้น. ดังนั้น แม้ปสาทอื่นๆเช่น โสตปสาท เป็นต้น ก็ย่อมเป็นสภาพที่ยินดีต่ออารมณ์ของตนเช่นเดียวกับจักขุ แต่ไม่ได้ชื่อว่า จักขุ เพราะคำว่า จักขุ เป็นคำศัพท์ที่มีใช้เฉพาะจักขุปสาทที่มีลักษณะดังกล่าวมาแล้วเท่านั้น.
[4] ก้อนเนื้อในที่นี้หมายถึงกล้ามเนื้อส่วนที่เป็นดวงตา ซึ่งเป็นที่อาศัยของจักขุปสาท
[5] ถึงแม้ก้อนเนื้อเป็นที่ตั้งแห่งจักขุปสาทนั้น ซึ่งเป็นไปร่วมกับจักขุปสาท ก็เรียกว่า จักษุ โดยโวหารที่เรียกว่า ฐานยูปจาระ กล่าวถึงฐานี คือ สิ่งที่อาศัยที่ตั้ง แต่หมายถึง ฐานะ คือ สิ่งที่เป็นที่ตั้ง.  เหมือนกับคำว่า กุนฺตา จรนฺติ หอกเที่ยวไป.  (มณิ.) กล่าวคือ พูดถึงจักขุซึ่งเป็นสิ่งที่มาอยู่ในกล้ามเนื้อส่วนดวงตา แต่หมายถึงกล้ามเนื้อส่วนดวงตาที่เป็นที่อยู่ของจักขุปสาท.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น