อภิธัมมัตถสังคหะ
อเหตุกจิต (๓)
อุเปกฺขาสหคต จกฺขุวิฃฺฃาณํ, ตถา โสตวิฺาณ ฆานวิฺาณ ชิวฺหาวิฺาณ ทุกฺขสหคต กายวิฺาณ อุเปกฺขาสหคต สมฺปฏิจฺฉนฺน, ตถา สนฺตีรณฺเจติ อิมานิ สตฺตปิ อกุสลวิปากจิตฺตานิ นาม.
อิมานิ จิตฺตานิ จิตเหล่านี้ สตฺตปิ แม้ ๗ ดวง อิติ คือ
จกฺขุวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยจักขุปสาท อุเปกฺขาสหคตํ เกิดร่วมกับอุเบกขา-เวทนา [จ ดวงหนึ่ง], โสตวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยโสตปสาท [จ ดวงหนึ่ง], ฆานวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยฆานวิญญาณ [จ ดวงหนึ่ง], ชิวฺหาวิฃฺฃาณํ จิตที่อาศัยชิวหาปสาท [จ ดวงหนึ่ง] ตถา [อุเปกฺขาสหคตํ เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา]เช่นเดียวกัน
**********
อภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา
อเหตุกจิต (๓) อธิบายคำว่า จักขุวิญญาณ [จิตที่อาศัยจักขุปสาทเกิด] (ต่อ)
๗๗. ยทิ เอว "โสต โข มาคนฺทิย สทฺทาราม สทฺทรต สทฺทสมฺมุทิตนฺติอาทิวจนโต โสตาทีนมฺปิ
สทฺทาทิอสฺสาทน อตฺถีติ
เตสมฺปิ จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา อาปชฺชตีติ. นาปชฺชติ
นิรุฑฺฒตฺตา[1].
โจทนา ท้วงว่า ยทิ ถ้าหากว่า เอวํ อย่างนี้
= จกฺขุสทฺโท คือ คำว่า
จกฺขุ อสฺสาทนวาจโก กล่าวความหมายว่ายินดี สิยา พึงมี[2],
สทฺทาทิอสฺสาทนํ ความยินดีต่อเสียงเป็นต้น โสตาทีนมฺปิ แม้แห่งโสตะเป็นต้น อตฺถิ
ก็มีอยู่ อิติอาทิวจนโต
เพราะมีพระบาลีเป็นต้นว่า มาคนฺทิย มาคันทิยะ โสตํ โข
โสตะนี่แล สทฺทารามํ
เป็นธรรมชาติมีเสียงเป็นที่ยินดี สทฺทรตํ ยินดีแล้วในเสียง สทฺทสมฺมุทิตํ
เริงแล้วในเสียง” อิติ = ตสฺมา เพราะเหตุนั้น
จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา ความเป็นอรรถ (หรือธรรม) ที่ควรเรียกด้วยคำว่า จกฺขุ [3]
เตสํ โสตาทีนมฺปิ แม้แห่งโสตะเป็นต้นเหล่านั้น อาปชฺชติ
ย่อมควร อิติ ดังนี้ ?
วิสชฺชนํ
ตอบว่า จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา ความเป็นอรรถที่ควรเรียกด้วยคำว่า จกฺขุ โสตาทีนํ แม้แห่งโสตะเป็นต้น
แม้เหล่านั้น น อาปชฺชติ ย่อมไม่ควร. กสฺมา เพราะเหตุไร ? จกฺขุสทฺทสฺส นิรุฑฺฒตฺตา [=
ปสิทฺธตฺตา] เพราะคำว่า จกฺขุ เป็นคำศัพท์ที่มีใช้ จกฺขุปฺสาเท
เอว เฉพาะในจักขุปสาทเท่านั้น.
[1]ถือเอาความหมายว่า
ปสิทฺธ สำเร็จ, มี, ปรากฏหรือนิยมใช้ (มณิ). อนึ่ง ฉบับสีหลและฉัฏฐ-สังคายนา เป็น
นิรุฬฺหตฺตา. แต่ฉบับของไทยปรากฏเช่นนี้.
รูปว่า นิรุฑฺฒ นี้ในโยชนาอธิบายว่า ท่านถือนัยจากภาษาสันสกฤต.
พึงทราบวจนัตถะและการสำเร็จรูปดังนี้.
ศัพท์ที่ปรากฏขึ้น เรียกว่า นิรุฑฺฒ. ขยายความว่า จักขุศัพท์ ย่อมปรากฏ
จกฺขุปฺปสาเท ในจักขุปสาท เพราะเหตุนั้น จักขุศัพท์นั้น ชื่อว่า นิรุฑฺฒ
ศัพท์ที่ปรากฏใช้ในจักขุปสาท. รุห ธาตุ มี นิ เป็นบทหน้า มีอรรถว่าเกิดปรากฏขึ้น.
ลง ต ปัจจัย แปลง ต เป็น ฒ. แปลง ห เป็น ฑ.
[2] อีกนัยหนึ่ง
ยทิ = สเจ
ถ้าว่า จกฺขุ นาม ชื่อว่า จักษุ สิยา
พึงมี รูปสฺสาทนโต เพราะเป็นสิ่งที่ยินดีในรูป เอวํ
อย่างนี้แล้วไซร้. (มณิ.)
[3] อภิธาตพฺโพติ อภิเธยฺโย.
อตฺโถ จกฺขุสทฺเทน อภิธาตพฺโพ
อิติ ตสฺมา โส อตฺโถ
อภิเธยฺโย. จกฺขุสทฺเทน
อภิเธยฺโย จกฺขุ...เธยฺโย.
จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยสฺส ภาโว จกฺขุ...ยตา. ที่เรียกว่า อภิเธยยะ ได้แก่ ความหมายหรือสิ่งที่ถูกกล่าวถึง. ในที่นี้คือถูกจักขุ ศัพท์ กล่าวถึง.
ความเป็นอรรถหรือเป็นสิ่งที่ถูกจักขุศัพท์กล่าวถึง เรียกว่า จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา
หมายถึง จักษุ นั่นเอง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น